วันอาทิตย์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

วันเอดส์โลก


วันเอดส์โลก

โรคเอดส์เริ่มเป็นที่รู้จักครั้งแรกในปี พ.ศ. ๒๕๒๔  โดยการก่อตัวขึ้นในบางส่วนของโลกและเป็นอยู่ในหมู่ชนบางกลุ่มเท่านั้น แต่ในปัจจุบันมีการตรวจพบโรคนี้ทั่วโลก และอัตราผู้ป่วยโรคเอดส์เพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแอฟริกา

สำหรับในประเทศไทย นับตั้งแต่เริ่มมีโรคเอดส์เกิดขึ้นในประเทศตามรายงานครั้งแรกในปี พ.ศ. ๒๕๒๗ จนถึงปี พ.ศ. ๒๕๓๓ จำนวนผู้ป่วยที่ติดเชื้อโรคเอดส์มีอัตราเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว แม้รัฐบาลจะประกาศเจตนารมณ์ที่จะแก้ไขปัญหาโรคเอดส์ โดยมอบให้กระทรวงสาธารณสุขรับผิดชอบให้มีคณะกรรมการประสานงานเกี่ยวกับโรคเอดส์แห่งชาติ ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๒๘ โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเป็นประธาน

กระทรวงสาธารณสุขได้กำหนดนโยบายและแผนการป้องกันและควบคุมโรคเอดส์ระดับชาติสำหรับปี ๒๕๓๑-๒๕๓๔ เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อโรคเอดส์ลดผลกระทบทางสังคมและเศรษฐกิจ ให้มีการประสานและร่วมมือกันระหว่างองค์การทั้งภาครัฐบาลและภาคเอกชน แต่สถานการณ์ของโรคกลับแพร่กระจาย มากขึ้นและกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่อโรคเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม กล่าวคือ เป็นที่เข้าใจกันว่าโรคนี้เกิดเฉพาะในกลุ่มชายรักร่วมเพศ กลุ่มผู้ใช้ยาเสพติดที่ใช้เข็มฉีดยาเข้าเส้นร่วมกัน และกลุ่มที่มีความสำส่อนทางเพศ แต่ในปัจจุบันโรคนี้ได้แพร่กระจายเข้าไปในกลุ่มอื่นๆ ด้วย เช่น ผู้ที่ได้รับการบริจาคเลือดหรืออวัยวะที่มีเชื้อโรคเอดส์ ทารกในครรภ์มารดาที่ติดเชื้อเอดส์ และยังกระจายไปยังกลุ่มเยาวชน และผู้หญิงอีกด้วย ดังจะเห็นได้จากการรายงานสถานการณ์ผู้ป่วยเอดส์ทั่วโลกของโครงการโรคเอดส์แห่งสหประชาชาติ หรือยูเอ็นเอดส์ (UNAIDS) ไว้ว่าในปี พ.ศ. ๒๕๔๖  ทั่วโลกมีผู้เป็นเอดส์ทั้งสิ้น กว่า ๓๘  ล้านคน

โดยในจำนวนผู้ติดเชื้อโรคเอดส์นี้ เป็นผู้ใหญ่ประมาณ ๓๑ ล้านคน เด็กอายุต่ำกว่า ๑๕ ปี อีก ๗ ล้านคน ในปีเดียวกันทั่วโลก มีผู้ป่วยโรคเอดส์ตายไปกว่า ๓ ล้านคน อีกทั้งข้อมูลขอองยูเอ็นเอดส์ยังระบุอีกว่า ตลอด ๒ ปีที่ผ่านมา มีผู้หญิง เป็นกลุ่มที่ติดเชื้อเอชไอวี มากขึ้นในทุกภูมิภาคของโลก โดยเฉพาะผู้หญิงในเอเชียตะวันออก มีอัตราของการติดเชื้อเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ ๕๖ รองลงมาคือ ผู้หญิงในยุโรปตะวันออก และเอเชียกลาง ปัจจุบัน ทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อเอชไอวี (ยังไม่ป่วยเป็นโรคเอดส์) สูงถึง ๓๙.๔  ล้านคน เทียบกับเมื่อปี ๒๕๔๕  มีเพียง ๓๖.๖  ล้านคน และปี ๒๕๔๖ มีอยู่แค่ ๓๘ ล้านคน

ปัจจุบันทวีปเอเชีย มีอัตราเพิ่มของผู้ติดเชื้อมากกว่าร้อยละ ๕๐ ของผู้ติดเชื้อทั้งหมดทั่วโลก โดยในประเทศจีน อินเดีย อินโดนีเซีย และเวียดนาม เป็นประเทศต้นๆที่ได้รับเชื้อเพิ่ม เฉพาะรัสเซียประเทศเดียว ขณะนี้มีผู้ติดเชื้อเอชไอวีไม่ต่ำกว่า ๘๖๐,๐๐๐  คน

                ในบรรดาผู้ติดเชื้อเอชไอวีทั่วโลก เกือบ ๔๐  ล้านคน ผู้ติดเชื้อประมาณ ๓๗ ล้านคน มีอายุระหว่าง ๑๕-๔๙  ปี ในจำนวนนี้เป็น เพศหญิง เกือบครึ่ง  โดยเฉพาะผู้หญิงทั่วโลก ที่อยู่ในวัยตั้งแต่ ๑๕-๒๔ ปี กลายเป็นเหยื่อเอดส์รายใหม่ เพิ่มขึ้นถึง ร้อยละ ๖๐  และเยาวชนหญิง วัยระหว่าง ๑๕-๑๙ ปี เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ ร้อยละ  ๕๖  มีรายงานว่า เฉพาะทวีปแอฟริกา แถบทะเลทรายซาฮารา พบการติดเชื้อเอชไอวีในผู้หญิงสูงถึง ๑๓.๓  ล้านคน

ปัจจุบันประเทศต่างๆ ทั่วโลก ได้ตระหนักถึงอันตรายจากการติดต่อ และการป่วยเป็นโรคนี้จึงได้มีการพยายามหามาตรการเพื่อป้องกันและหยุดยั้งโรคเอดส์ให้เป็นผลสำเร็จ

องค์การอนามัยโลกจึงได้กำหนดให้วันที่ ๑ ธันวาคม ของทุกปี เป็นวันเอดส์โลก ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ ๑ ธันวาคม ๒๕๓๑ เป็นปีแรก โดยมีวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้ คือ

 ๑. เพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักถึงอันตรายจากการติดต่อและการเจ็บป่วยด้วยโรคเอดส์

๒. เพื่อสร้างเสริมและสนับสนุนให้มีมาตรการการป้องกันให้มากยิ่งขึ้นในสังคมทุกระดับ

๓. เพื่อให้มีการจัดกิจกรรมต่อต้านต่างๆ ดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง

๔. เพื่อส่งเสริมให้เกิดการยอมรับและห่วงใยต่อผู้ป่วยและผู้ติดเชื้อ

๕. เพื่อเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับโรคเอดส์ให้กว้างขวางยิ่งขึ้น

การจัดกิจกรรมรณรงค์ในวันเอดส์โลก จะเป็นการสร้างจิตสำนึกให้ทุกคนได้ให้ความเห็นใจและห่วงใยต่อผู้ติดเชื้อและผู้ป่วย ตลอดจนให้ทุกคนมีความรู้เกี่ยวกับโรคเอดส์ อันจะเป็นแนวทางหนึ่งที่จะทำให้การขยายตัวของโรคนี้ลดน้อยลง

   ที่มา http://www.lib.ru.ac.th/journal/dec/dec01-AIDS.html
------------------------------------------------------
   คัดลอกมาจาก : http://guru.sanook.com/2865/วันเอดส์โลก/




                                                                                                                          สุพล  พันอิน


วันพุธที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

สธ.ดีเดย์ ส่ง “ทีมหมอครอบครัว” ดูแล คนไทย เริ่ม 1 ม.ค.58 นี้


           กระทรวงสาธารณสุขเตรียมมอบของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชนไทย เริ่มตั้งแต่ 1 มกราคม 2558 เป็นต้นไป  ทุกครัวเรือนทั้งในเขตชนบทและเมือง จะมีทีมหมอครอบครัว ช่วยดูแลสุขภาพ รักษา ส่งเสริม ป้องกันและฟื้นฟู พร้อมผลิตแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัวเพิ่ม ย้ำหมอครอบครัว สร้างความมั่นคง มั่นใจระบบบริการสุขภาพ

          วันนี้ (26 พฤศจิกายน 2557) ที่อาคารเฉลิมพระบารมี 50 ปี ซอยศูนย์วิจัย ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ กรุงเทพฯ ศาสตราจารย์นายแพทย์รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ปาฐกฐาพิเศษ เรื่อง “นโยบายเวชศาสตร์ครอบครัวในระบบสาธารณสุขไทย” ในงานประชุมวิชาการของราชวิทยาลัยแพทย์เวชศาสตร์ประจำครอบครัว แห่งประเทศไทย ร่วมกับสถาบันพระบรมราชชนก สมาคมแพทย์เวชปฎิบัติทั่วไป และสภาการพยาบาล  ประจำปี 2557 ซี่งในปีนี้เน้นเรื่อง “ทักษะการบริการปฐมภูมิและเวชปฏิบัติครอบครัวในศตวรรษที่ 21”

          ศาสตราจารย์นายแพทย์รัชตะ กล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายพัฒนาระบบบริการสุขภาพ ให้ประชาชนทุกคนบนแผ่นดินไทย สามารถเข้าถึงบริการที่มีคุณภาพอย่างทั่วถึง   ใช้ทรัพยากรสุขภาพอย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นระบบที่ยั่งยืน โดยจะต้องมีการเข้าไปดูแลสุขภาพประชาชน ถึงในระดับครอบครัว ซึ่งเป็นหน่วยที่เล็กที่สุดของสังคมและมีความสำคัญที่สุดในการส่งเสริมพัฒนาสุขภาพของประชาชนในชุมชน  โดยจะใช้ระบบการสร้างนำการซ่อมสุขภาพ  เพื่อรักษาการมีสุขภาพดีของประชาชนไว้ให้ยาวนานที่สุด รวมทั้งเน้นการดูแลแบบองค์รวม ตั้งแต่การป้องกัน ดูแล และรักษา จนถึงการฟื้นฟูสมรรถภาพหลังเจ็บป่วย

ทั้งนี้เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชนไทยทั้งประเทศที่ป่วยแล้วและยังไม่ป่วย  ให้เข้าถึงบริการและได้รับการดูแลสุขภาพอย่างมีคุณภาพยิ่งขึ้น กระทรวงสาธารณสุขจะส่งทีมหมอครอบครัว ซึ่งเป็นบุคลากรด้านสุขภาพประกอบด้วย แพทย์ประจำครอบครัว ทันตแพทย์ พยาบาล เภสัชกร และนักกายภาพบำบัด และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอื่น ๆ  เข้าไปให้การดูแลสุขภาพประชาชนทุกครอบครัวในชุมชนทั้งในชนบทและในเขตเมือง เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2558 เป็นต้นไป  ทีมหมอครอบครัวดังกล่าวจะให้การดูแลรักษาสุขภาพเบื้องต้น เป็นที่ปรึกษาปัญหาสุขภาพต่างๆ มีการออกเยี่ยมบ้านดูแลผู้ป่วยที่พักฟื้นที่บ้านด้วย ในกรณีที่ผู้ป่วยจำเป็นต้องได้รับการดูแลรักษาในโรงพยาบาล ก็จะทำหน้าที่ประสานงานกับโรงพยาบาลในระดับที่สูงขึ้น เพื่อส่งตัวผู้ป่วยเข้าไปรับการรักษาอย่างเหมาะสมจะทำให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งหายป่วย ซึ่งเป็นการสร้างความมั่นคงและมั่นใจในระบบบริการสุขภาพของไทย

          อย่างไรก็ตาม เพื่อให้นโยบายดังกล่าวบรรลุผลและวางฐานของระบบการสร้างสุขภาพของประเทศให้เข้มแข็งขึ้น กระทรวงสาธารณสุขจะเร่งผลิตแพทย์เวชศาสตร์ประจำครอบครัว ซึ่งเป็นแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านการดูแลชุมชนเพิ่มขึ้นอีก ให้ครอบคลุมโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลชุมชน และโรงพยาบาลทั่วไปทุกแห่ง  เพื่อเป็นหัวหน้าทีมสุขภาพทำงานร่วมกับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ให้สามารถดูแลครอบครัวในชุมชนได้ ทั้งหมดนี้จะทำให้ประชาชนทุกคน สามารถเข้าถึงการบริการสาธารณสุขได้อย่างทั่วถึงและมีคุณภาพมากขึ้น


                                                                      แหล่งข่าวโดย » สำนักสารนิเทศ กระทรวงสาธารณสุข





                                                                                                                          สุพล  พันอิน

วันพฤหัสบดีที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

โรงพยาบาลสุรินทร์จัดโครงการประชุมวิชาการ"สุรินทร์อายุรศาตร์ทันยุค 2014"




       วันที่ 20 พฤศจิกายน 2557 โรงพยาบาลสุรินทร์ โดยกลุ่มงานอายุรกรรม จัดโครงการประชุมวิชาการ สุรินทร์อายุรศาสตร์ทันยุค 2014 ที่ห้องประชุมสระโบราณ โรงพยาบาลสุรินทร์ โดยมี นพ.สมคิด สุริยเลิศ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสุรินทร์ เป็นประธานเปิดงาน นพ.พิชัย  ชาติกิจอนันต์ หัวหน้ากลุ่มงานอายุรกรรม โรงพยาบาลสุรินทร์ กล่าวรายงาน
      นพ.สมคิด  สุริยเลิศ  ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสุรินทร์ กล่าวว่า โรงพยาบาลสุรินทร์มีนโยบายในการพัฒนาระบบบริการสุขภาพตาม Service plan เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงบริการที่ได้มาตรฐาน ให้บริการเชื่อมโยงไร้รอยต่อ ระหว่างโรงพยาบาลสุรินทร์และโรงพยาบาลในเครือข่าย และเพื่อพัฒนาศักยภาพ ให้สามารถดูแลผู้ป่วยที่มีปัญหาทางด้านอายุรกรรม ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
        นพ.สมคิด สุริยเลิศ  กล่าวอีกว่า สาเหตุการตายที่สำคัญของประเทศไทย 5 อันดับแรกได้แก่ โรคหัวใจ อุบัติเหตุและการเป็นพิษ มะเร็งทุกชนิด ความดันโลหิตสูง และหลอดเลือดสมอง ส่งผลให้เกิดความสูญเสียต่อการพัฒนา ทั้งเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งหากดูแลสุขภาพไม่ดี จะนำไปสู่การเจ็บป่วยแทรกซ้อน และความพิการ ซึ่งสาเหตุการตายส่วนใหญ่เป็นโรคทางด้านอายุรกรรม






ข่าวโดย  กลุ่มงานสุขศึกษา  โรงพยาบาลสุรินทร์


                                                                                                                          สุพล  พันอิน

   

วันอังคารที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ครม.ไฟเขียวขึ้นค่าครองชีพ ขรก.-ลูกจ้างชั้นผู้น้อย



           ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นชอบเพิ่มค่าครองชีพชั่วคราวข้าราชการและลูกจ้างประจำตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยให้มีผลบังคับใช้ย้อนหลังตั้งแต่ 1 ตุลาคม 57 เป็นต้นไป ซึ่งจะทำให้ผู้ที่มีเงินเดือนไม่ถึงเดือนละ 13,285 บาท จะได้รับเงินเพิ่มค่าครองชีพเป็นเดือนละ 2,000 บาท แต่เมื่อรวมกับเงินเดือนแล้วต้องไม่เกินเดือนละ 13,285 บาท ขณะที่ผู้ที่มีเงินเดือนไม่ถึงเดือนละ 10,000 บาท จะได้รับเงินเพิ่มค่าครองชีพจนถึง 10,000 บาท




ที่มา : เรื่องเล่าเช้านี้

วันศุกร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

โรงพยาบาลสุรินทร์เป็นห่วงประชาชน ให้ใส่ใจเลือกซื้ออาหารในช่วงเทศกาลงานมหัศจรรย์งานช้างสุรินทร์


          นพ.สมคิด  สุริยเลิศ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสุรินทร์ กล่าวว่าในช่วงเทศกาลงานมหัศจรรย์งานช้างสุรินทร์ ขอให้ประชาชนตระหนักถึงความปลอดภัยในการเลือกซื้อของอุปโภค บริโภค ให้มาก เนื่องจากเป็นเทศกาลการท่องเที่ยวของจังหวัดสุรินทร์ นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าจังหวัดสุรินทร์เป็นจำนวนมาก จึงอาจทำให้พ่อค้า แม่ค้า ละเลยที่จะใส่ใจคุณภาพของสินค้า   โดยเฉพาะของบริโภคประเภทอาหารสด ที่ซื้อแล้วรับประทานทันที จึงอยากให้ประชาชนใส่ใจกันให้มากๆ  ทั้งนี้ นพ.สมคิด  สุริยเลิศ แนะนำวิธีการเลือกซื้ออาหารว่าควร ร้านอาหารและแผงลอยที่สะอาด โดยผู้ปรุงและประกอบอาหารแต่งกายสะอาด  ใส่เสื้อมีแขน  ใส่หมวก  ใส่รองเท้า  ไม่ทาเล็บมือและไม่สวมแหวน   สังเกตลักษณะของอาหาร  เช่น  สี  กลิ่น  และรส  ต้องไม่มีความผิดปกติจากธรรมชาติ ถ้าเป็นอาหารที่มีบรรจุภัณฑ์ให้อ่านฉลากก่อนซื้อ  เช่น  วัน/เดือน/ปี หมดอายุ, อย., ชื่อผู่ผลิต, สถานที่ผลิต, คุณค่าของสารอาหารในฉลาก ด้วย และสังเกตลักษณะของภาชนะบรรจุ  ต้องอยู่ในลักษณะที่ดี  สะอาด  เช่น  เครื่องดื่มอยู่ในภาชนะที่ปิดสนิท  กระป๋องอยู่ในสภาพดี เป็นต้น
          สำหรับคนที่มีอาการอาหารเป็นพิษหรืออาการท้องเสีย ให้ปฏิบัติดังนี้พักผ่อนให้มากๆ เพราะร่างกายเพลีย  ดื่มผงเกลือแร่หากอ่อนเพลียหรือถ่ายมาก และกินอาหารที่ย่อยง่ายเมื่ออาการทุเลา ถ่ายอุจจาระลงส้วมที่ถูกสุขลักษณะ และระวังในการแพร่เชื้อสู่ผู้อื่น หากอาการไม่ทุเลา หรือมีอาการผิดปกติอื่นๆ ผู้ป่วยควรไปพบแพทย์ นพ.สมคิด กล่าว



ข่าวโดย  กลุ่มงานสุขศึกษา  โรงพยาบาลสุรินทร์


                                                                                                                          สุพล  พันอิน

วันพฤหัสบดีที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

รพ.สุรินทร์ จัดงานทำบุญตักบาตรประจำเดือนพฤศจิกายน

 วันนี้ 13 พฤศจิกายน 2557 โรงพยาบาลสุรินทร์จัดงานทำบุญตักบาตรประจำเดือนพฤศจิกายน 2557 
               นพ.สมคิด  สุริยเลิศ  ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสุรินทร์ พร้อมด้วยบุคลากร เจ้าหน้าที่ ญาติผู้ป่วย ร่วมกันทำบุญตักบาตรประจำเดือนพฤศจิกายน ที่พุทธอุทยานสระโบราณ โรงพยาบาลสุรินทร์ ซึ่งการตักบาตรประจำเดือนนั้น โรงพยาบาลสุรินทร์ถือเอาวันพฤหัสบดี ที่2 ของเดือนเป็นวันทำบุญ








ข่าวโดย  กลุ่มงานสุขศึกษา  โรงพยาบาลสุรินทร์


                                                                                                                          สุพล  พันอิน






วันอังคารที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

รพ.สุรินทร์ รับผู้เชี่ยวชาญ WHO : Joint National and International EPI/VPD Surveillance Review in Thailand


        ด้วยองค์การอนามัยโลก สำนักงานภูมิภาคเอเชียใต้และตะวันอกก (WHO SEARO) ร่วมกับ กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมควบคุม กำหนดกิจกรรม Joint National and International EPI/VPD Surveillance Review in Thailand โดยมีทีมผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศและผู้เชี่ยวชาญของไทยปฏิบัติงานภาคสนามในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ ณ โรงพยาบาลสุรินทร์และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลคอโค ในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2557 เพื่อทบททวนการดำเนินงานและการบริหารจัดการแผนสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค การเฝ้าระวังโรคที่ป้องกันได้ด้วยวัคซีนและทิศทางยุทธศาสตร์ในอนาคต เพื่อบรรลุเป้าหมายในระดับโลกและระดับภูมิภาค ทั้งนี้ นายสมคิด สุริยเลิศ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสุรินทร์ พร้อมคณะจากโรงพยาบาลสุรินทร์และสำนักสาธารณสุขอำเภอเมืองสุรินทร์ร่วมเข้ารับทีมผู้เชี่ยวชาญดังกล่าว


ข่าวโดย  กลุ่มงานสุขศึกษา  โรงพยาบาลสุรินทร์


                                                                                                                          สุพล  พันอิน   

วันพุธที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

โรงพยาบาลสุรินทร์จัดงานสัปดาห์สุขภาพจิตแห่งชาติ

         วันนี้ 6 พฤศจิกายน 2557 โรงพยาบาลสุรินทร์  โดยกลุ่มงานจิตเวช จัดงานสัปดาห์สุขภาพจิตแห่งชาติ ที่บริเวณหน้าอาคาร 10 ชั้น 1 (หอผู้ป่วยจิตเวช) โดยมี นพ.สมคิด  สุริยเลิศ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสุรินทร์  เป็นประธานเปิดงาน และนพ.กิตติศักดิ์  สุรพงษ์พิวัฒนะ  หัวหน้ากลุ่มงานสุขภาพจิตและจิตเวช กล่าวรายงาน โดยในงานจะมีการจัดกิจกรรมบรรยายธรรม เรื่อง ความสุขในชีวิตประจำวัน และหลังจากนั้นจะเป็นกิจกรรมแห่งความสุข ประกอบด้วย กิจกรรมสอยดาว ร้องเพลง  วาดรูป  อ่านหนังสือ ลอยกระทง ประมูลสินค้า  เป็นต้น 

         นพ.สมคิด  สุริยเลิศ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสุรินทร์ กล่าวว่าเนื่องจากปีนี้กรมสุขภาพจิตได้กำหนดให้มีคำขวัญใน มหกรรมความสุขว่าร่วมสร้างอารมณ์ดี ให้ทุกชีวีมีความสุข เนื่องจากปัจจัยที่ทำให้ประสบความสำเร็จในชีวิตไม่เกี่ยวกับ IQ ทั้งหมด แต่รวมถึง ความสามารถในการจัดการกับความผิดหวัง(AQ) การควบคุมอารมณ์ได้ดี (EQ)   การเข้ากับคนอื่นได้ดี (SQ) ดังนั้นการส่งเสริมให้บุคคลได้สร้างอารมณ์ดีจึงเป็นปัจจัยหนึ่ง ที่ทำให้บุคคลมีความสุขได้ เพราะคนไทยโดยพื้นฐานเป็นคนอารมณ์ดี สังคมไทยอยู่ร่วมกันอย่างช่วยเหลือเกื้อกูลกัน การมีจิตใจดี เชื่อในเรื่องการทำความดี สร้างบุญสร้างกุศล จะช่วยให้สังคมอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข การมีอารมณ์ดี มีความสุข ช่วยให้สุขภาพแข็งแรง มีความคิดสร้างสรรค์ คิดแก้ปัญหาและปรับตัวเก่ง สร้างความสัมพันธ์ได้ดี รู้จักดูแลตัวเอง มีพฤติกรรมที่ดี มีอายุยืนยาว








ข่าวโดย  กลุ่มงานสุขศึกษา  โรงพยาบาลสุรินทร์


                                                                                                                          สุพล  พันอิน      







วันจันทร์ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

จังหวัดสุรินทร์ขอเชิญร่วมงานแถลงข่าวและพิธีเปิดงานมหัศจรรย์งานช้างสุรินทร์ วันที่ 5 พฤศจิกายนนี้ ที่สนามแสดงช้างสุรินทร์




      จังหวัดสุรินทร์ขอเชิญร่วมงานแถลงข่าวและพิธีเปิดงานมหัศจรรย์งานช้างสุรินทร์ วันที่ 5 พฤศจิกายนนี้ ที่สนามแสดงช้างสุรินทร์
       นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า จังหวัดสุรินทร์กำหนดจัดงาน “มหัศจรรย์งานช้างสุรินทร์” ครั้งที่ 54 ระหว่างวันที่ 5-16 พฤศจิกายน 2557 รวม 12 วัน ที่สนามกีฬาศรีณรงค์ และจัดงานแสดงช้างในวันเสาร์ที่ 15 และวันอาทิตย์ที่ 16 พฤศจิกายน 2557 ที่สนามแสดงช้างจังหวัดสุรินทร์ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดสุรินทร์ ให้เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ รวมทั้งเป็นการส่งเสริมขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปวัฒนธรรมพื้นเมืองอันดีงาม และอนุรักษ์การแสดงช้างซึ่งเป็นสัตว์สัญลักษณ์ประจำชาติไทยให้คงอยู่สืบไป
โดยในงานนักท่องเที่ยวจะได้ชมประวัติความเป็นมาอันยาวนานซึ่งแสดงถึงความผูกพันระหว่างคนกับช้างผ่านการแสดงของช้าง การจำลองพิธีกรรมเกี่ยวกับการเลี้ยงช้าง การแสดงการคล้องช้าง การชักเย่อคนกับช้าง ช้างเตะฟุตบอล การจำลองขบวนช้างศึกสงครามยุทธหัตถี การแสดงความสามารถของช้าง การแสดงของช้างน้อยน่ารักแสนรู้ การออกร้านของส่วนราชการ การจำหน่ายสินค้า OTOP การประกวดผลิตผลทางการเกษตร การประกวดร้องเพลง การเดินแบบผ้าไหม การประกวดของดีเมืองสุรินทร์ การแสดงดนตรี การแสดงศิลปวัฒนธรรม รวมทั้งการออกร้านธารากาชาดของเหล่ากาชาดจังหวัดสุรินทร์
      ดังนั้น เพื่อให้การประชาสัมพันธ์การจัดงานดังกล่าวให้เป็นไปอย่างแพร่หลาย เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว และเพื่อกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวเมืองไทยมากขึ้น จังหวัดสุรินทร์จึงกำหนดจัดแถลงข่าวพิธีเปิดงานมหัศจรรย์งานช้างสุรินทร์ประจำปี 2557 ในวันที่ 5 พฤศจิกายน 2557 ที่บริเวณสนามแสดงช้างจังหวัดสุรินทร์ เวลา 15.30 น. หัวหน้าส่วนราชการและสื่อมวลชนพร้อมที่เวทีการแถลงข่าว ลงทะเบียนรับของที่ระลึก  เวลา 16.00 น. พิธีแถลงข่าว โดยนายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์กล่าวถึงรายละเอียดการจัดงานมหัศจรรย์งานช้างสุรินทร์ประจำปี 2557 นายกิตติพัฒน์ รุ่งธนเกียรติ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ กล่าวถึงกิจกรรมงานต้อนรับและเลี้ยงอาหารช้าง นายบรรจง พิชญาสาธิต นายกเทศมนตรีตำบลศีขรภูมิ กล่าวถึง กิจกรรมการแสดงแสงสีเสียงตำนานพันปีปราสาทศีขรภูมิ นายชูเกียรติ โพธิโต ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสุรินทร์ กล่าวถึง การสนับสนุนด้านการประชาสัมพันธ์ พล.ต.ต.กาญจน์พจน์ ชัยศิริชาญพนา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ กล่าวถึง การรักษาความปลอดภัยและการอำนวยความสะดวกด้านการจราจร ผู้แทน สสส. กล่าวถึง การจัดงานมหัศจรรย์งานช้างสุรินทร์ปลอดแอลกอฮอล์ จากนั้น เวลา 16.30 น. มีการแสดงโชว์ตัวอย่างแต่ละองค์ของการแสดงช้าง เวลา 17.00 น. เข้าสู่พิธีเปิดงานมหัศจรรย์งานช้างสุรินทร์ ประจำปี 2557 โดย นายถาวร กุลโชติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ กล่าวรายงาน นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์มอบเกียรติบัตรแก่ผู้สนับสนุนงบประมาณในการจัดงาน จากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการและผู้ที่เกี่ยวข้องเดินทางไปเปิดร้านธารากาชาด และเยี่ยมชมร้านนิทรรศการของส่วนราชการ จังหวัดสุรินทร์จึงขอเชิญชวนสื่อมวลชน ประชาชน ข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ และนักท่องเที่ยว ร่วมเป็นเกียรติในการแถลงข่าวและร่วมในพิธีเปิดงานมหัศจรรย์งานช้างสุรินทร์ประจำปี 2557 วันที่ 5 พฤศจิกายนนี้ที่สนามแสดงช้างและสนามศรีณรงค์






สมทรง เผือกผล ส.ปชส.สุรินทร์ / ข่าว

ร่วมเผยแพร่โดย  สุพล พันอิน

วันอาทิตย์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

โรงพยาบาลสุรินทร์เตือนภัยช่วงเทศกาลลอยกระทง



     โรงพยาบาลสุรินทร์ มีความห่วงใยในช่วงเทศกาลลอยกระทงของทุกปี ก็จะมีอันตรายที่มักจะเกิดขึ้นได้บ่อยๆ นั้นคือภัยจากการจมน้ำนั่นเอง โดยเฉพาะมักจะเกิดขึ้นในกลุ่มเด็ก เพราะเด็กที่ไปลอยกระทงอาจเกิดพลัดตกน้ำได้ และเหตุการที่มักจะพบได้บ่อยๆคือ การมักลงไปเก็บเศษเงินในกระทง ในขณะที่ผู้ใหญ่ก็มีความเสี่ยงเช่นกัน ในรายที่มีการดื่มสุราแล้วทำให้การควบคุมตัวเองไม่ได้

     นพ.สมคิด สุริยเลิศ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสุรินทร์ กล่าวว่านอกภัยจากการจมน้ำที่มักจะเกิดขึ้นในกลุ่มเด็กๆแล้ว สิ่งที่จะต้องมีการเฝ้าระวังคือภัยจากการเล่นพลุุ ประทัดและดอกไม้ไฟ ที่มักจะมีการเล่นกันมากในช่วงนี้ ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่จะมาจากการเล่นแบบคึกคะนอง  เล่นแบบรู้เท่าไม่ถึงการณ์ จนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายต้องสูญเสียอวัยวะ เช่นตาบอด หูตึง เสียมือหรือนิ้ว หรือบางรายอาจเสียชีวิตได้
   






ข่าวโดย  กลุ่มงานสุขศึกษา  โรงพยาบาลสุรินทร์